STKC 2553

การสำรวจและการทำเหมืองแร่ยูเรเนียม

(Uranium Ores Exploration and Mining)

พิพัฒน์ พิเชษฐพงษ์
กลุ่มวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

 

ในการสำรวจแหล่งแร่ยูเรเนียม สามารถทำได้หลากหลายวิธี ตามขั้นตอนทั่ว ๆ ไป คือ เริ่มตั้งแต่การใช้ภาพถ่ายจาก ดาวเทียม การใช้ภาพถ่ายจากเครื่องบินสำรวจ การสำรวจทางภาคพื้นดินและทางทะเล การขุดเจาะสำรวจ และการ วิเคราะห์ตัวอย่างหินและดิน ซึ่งแต่ละวิธีสามารถให้รายละเอียดข้อมูลในระดับต่าง ๆ ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายแตกต่าง กันออกไป

ภาพถ่ายทางอากาศสามารถใช้ทั้งภาพถ่ายจากแสงปกติ ภาพถ่ายจากเรดาร์ อินฟราเรด และแสงที่ความยาวต่าง ๆ การพิจารณาลักษณะภูมิประเทศสามารถดูจากผิวดิน ตะกอนดิน ตะกอนหินในแม่น้ำ รวมทั้งตัวอย่างน้ำและตัวอย่างพืช โดยดูจากการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของตัวอย่าง การวัดปริมาณรังสีและสารรังสีที่เกี่ยวข้องกับยูเรเนียม ในตัวอย่าง

หลังจากได้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งแร่ยูเรเนียมแล้ว ก่อนการทำเหมืองจะมีปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาความคุ้มในการทำ เหมืองแร่ยูเรเนียม ดังนี้
  • เกรดของแร่ยูเรเนียม หรือองค์ประกอบของยูเรเนียมในแร่ (uranium grade)
  • ปริมาณหรือขนาดของแหล่งแร่ (ore body size)
  • โอกาสแยกธาตุพลอยได้อื่น ๆ ที่มีอยู่ในแร่ (possible by-products)
  • ความลึกของแร่จากผิวดิน (mining zone depth)
  • วิธีการในการทำเหมืองแร่ (mining method)
  • ราคาคาดหวังของยูเรเนียมในตลาดโลก (expected selling price)
  • การพิจารณาสภาพทางภูมิศาสตร์การเมือง (geopolitical consideration)
  • การพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (environment considerations)

เหมืองแร่ยูเรเนียมสามารถแบ่งได้ 2 แบบใหญ่ ๆ คือ เหมืองเปิด (open pit mining) และเหมืองใต้ดิน (underground mining) นอกจากนี้ยังมีเหมืองแร่ที่มีลักษณะพิเศษซึ่งสามารถใช้วิธีการเฉพาะเรียกว่า in situ leaching (ISL) โดยการใช้ สารละลายอัดฉีดเข้าไปชะยูเรเนียมออกมาจากแร่ยูเรเนียมที่อยู่ใต้ดินออกมา ยูเรเนียมบางส่วนก็มีการผลิต ได้มาจาก ผลพลอยได้ (by-product) จากการทำเหมืองแร่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ยูเรเนียมโดยตรง

เหมืองแร่ยูเรเนียมที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน คือ เหมือง Mc Arthur River ของบริษัท Cameco ในประเทศแคนาดา เป็นแบบ เหมืองใต้ดิน มีความสามารถในการผลิตแร่ยูเรเนียมประมาณ 15 % ของโลก เหมืองแร่ยูเรเนียมที่ใหญ่รอง ลงมา คือ เหมือง Ranger ของบริษัท REA ในประเทศออสเตรเลีย เป็นแบบ เหมืองเปิด มีกำลังผลิตประมาณ 10 % ของโลก

Top ten uranium mines of the world in 2008

Rank

Mine

Country

Main owner

Geological type

Production (tU)

% World product

1

Mc Arthur River

Canada

Cameco

Unconformity Athabasca Basin

6383

15

2

Ranger

Australia

REA

Unconformity Kombolgie Basin

4527

10

3

R?ssing

Namibia

Rio Tinto

Alaskitic granitic intrusve

3449

8

4

Olympic Dam

Australia

BHP Billiton

Cu,Au,Ag Breccia - U by product

3344

8

5

Kraznokamensk

Russia

ARMZ

Volcanic complex

3050

7

6

Arlit

Niger

Areva/Onarem

Strato?d ore in sandstones

1743

4

7

Rabbit Lake

Canada

Cameco

Unconformity Athabasca Basin

1368

3

8

Akouta

Niger

Areva/Onarem

Conformable ore in sandstones

1289

3

9

Mc Clean Lake

Canada

Areva/Onarem

Unconformity Athabasca Basin

1249

3

10

Akdala

Kazakhstan

Uranium One

Roll front in sandstones

1034

2

แหล่งข้อมูล เอกสารการสัมมนา Nuclear Fuel Cycle 2009