คณะนักวิจัยได้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
โดยต้องการให้สายเพปไทด์จากพิษแมงป่องเป็นตัวส่งกัมมันตภาพรังสี ให้กับเซลล์มะเร็งโดยตรง
และอยู่ในระดับความแรงรังสีที่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ ดังนั้น คณะนักวิจัยจึงดำเนินการติดฉลากสารรังสีไอโอดีน เข้ากับสายเพปไทด์จากพิษแมงป่อง
จากการทดลองกับคนไข้อาสาสมัครที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งสมองระยะสุดท้าย
จำนวน 59 คน ด้วยการฉีดสายเพปไทด์จากพิษแมงป่องติดฉลาก (TM 601) ไปยังเซลล์มะเร็งโดยตรง ผลปรากฏว่า คนไข้มีชีวิตนานขึ้นเป็นเวลาโดยเฉลี่ย
3 เดือน ถึงแม้ว่าในที่สุดแล้ว คนไข้ทั้งหมดเสียชีวิตไป แต่ สาร TM601 มีผลช่วยยืดอายุคนไข้ไว้ได้ระยะหนึ่ง
ปัจจุบันคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชิคาโก
มลรัฐอิลลินอยส์ ได้เปลี่ยนการทดลองใหม่ โดยใช้วิธีฉีดสาร TM601 เข้ากระแสเลือดของคนไข้อาสาสมัครป่วยด้วยโรคมะเร็งสมอง ที่มีชนิดของเซลล์มะเร็งแตกต่างกัน
ทั้งนี้ทางบริษัท TranMolecular ต้องการศึกษาเกี่ยวกับการเข้าจับกับตัวรับในเซลล์มะเร็งที่อาจเกิดขึ้นใหม่ (secondary tumours) บริเวณทั่วร่างกาย
โดยที่แพทย์เองยังตรวจไม่พบ พร้อม ๆ กับการเข้าจับกับตัวรับในเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานถึงผลการศึกษานี้
ในอดีตคนจีนใช้แมงป่องด้านสรรพคุณทางยามานานนับ
3000 ปี ด้วยการนำแมงป่องมาปิ้งหรือย่าง กินช่วยขับลม ช่วยขับพิษอื่น ๆ
ทำให้เลือดลมดี และใช้แมงป่องอบแห้ง รักษาโรคหลายชนิด เช่น บาดทะยัก เกาต์
หลอดเลือดแดงอักเสบ คนไทยเราใช้ดองเหล้ากิน บรรเทาอาการอัมพาต อัมพฤกษ์
ซึ่งเข้าทำนอง หนามยอกเอาหนามบ่ง นั้นแล
ก่อนจบ
ขอฝากข้อแตกต่างอีกอย่างหนึ่งระหว่างแมงป่องกับแมลงทั่วไป ซึ่งนอกจากขาที่มีมากกว่าแมลงถึง
2 ขาแล้ว ส่วนหัวของแมงป่อง ก็ยังไม่มีหนวดอีกด้วยค่ะ
(Scorpion venom
goes nuclear to attack cancer: NewScientist Vol.200 No. 2676 )
|