ดอลตันเป็นนักเคมีและนักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ เกิดวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1766 ที่อีเกิลสฟีลด์ ในวัยหนุ่มเขาได้ย้ายไปที่เมือง แมนเชสเตอร ์และอาศัยอยู่จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ซึ่งเขาถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 1844 รวมอายุได้ 78 ปี
ที่แมนเชสเตอร์ ดอลตันเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง และได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสมาคมวรรรณกรรม และปรัชญา (Literary and Philosophical Society) เมื่อปี 1794 ซึ่งภายในไม่กี่สัปดาห์ ดอลตันก็เสนอบทความแรกของเขา เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ตาบอดสี ที่ได้สังเกตจากประสบการณ์ของตัวเองที่สายตาของเขาแยกสีได้เฉพาะสีฟ้ากับสีม่วงเท่านั้น ทำให้โลกรับรู้ว่ามีคนตาบอดสีอยู่บนโลกใบนี้และคำว่า colour blindness ก็เป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Doltonism หลังจากนั้นเขาก็มีบทความออกมาเรื่อย ๆ ในหลากหลายสาขาทั้ง แสง ความร้อน สีของท้องฟ้า รวมทั้งเรื่องของ ฝน น้ำค้าง ไอน้ำ และแม้แต่ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
ค.ศ. 1800 ดอลตันได้รับตำแหน่งเลขาธิการของสมาคมฯ จากนั้นเขาก็เริ่มเสนอบทความหลายเรื่องจากผลการทดลอง เกี่ยวกับการผสมกันของแก๊ส ความสัมพันธ์ระหว่างการดึงดูดกันและการขยายตัวของไอน้ำและแก๊สอื่น ๆ กับอุณหภูมิ ที่ทำให้เขาพบ กฎความดันย่อย (law of partial pressures ) หรือที่รู้จักกันว่าเป็น กฎของดอลตัน ( Daltons law)
ก่อนหน้าดอลตันไม่นาน ลาวัวซีเย (Lavoisier : ค.ศ. 1743-1794) นำการชั่ง ตวง วัด มาใช้กับการทดลองเกี่ยวกับ การเผาไหม้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปฏิกิริยาเคมีมีสัดส่วนของสารที่มาทำปฏิกิริยากันที่แน่นอน ดังนั้น ในช่วง ค.ศ. 1800 เป็นต้นมา นักเคมีจึงพากันศึกษาว่าธาตุใดทำปฏิกิริยากับอีกธาตุหนึ่งด้วยสัดส่วนเท่าใด เช่น โซเดียม 46 กรัม จะทำปฏิกิริยาพอดีตายตัวกับคลอรีน 71 กรัมได้เป็นเกลือแกง 117 กรัม และมีการตีพิมพ์เผยแพร่กันออกมามากมาย
ดอลตันก็ศึกษาในทำนองเดียวกันนี้ โดยเมื่อเขาสังเกตเกี่ยวกับน้ำหนักของแก๊สที่นำมาผสมกันในอัตราส่วนที่ตายตัว ว่าทำปฏิกิริยาเกิดเป็นแก๊สชนิดใหม่เท่าใด เช่นเมื่อจำกัดปริมาตรของแก๊สไฮโดรเจนไว้ปริมาตรหนึ่ง แล้วเติมแก๊สออกซิเจน เข้าไป แก๊สสองอย่างนี้จะทำปฏิกิริยากันเกิดเป็น น้ำ ที่มีน้ำหนักคงที่ไม่ว่าจะเติมแก๊สออกซิเจนเข้าไปมากเท่าใดก็ไม่มีผล เว้นแต่จะเติมแก๊สไฮโดรเจนลงไปด้วยจึงจะได้น้ำเพิ่มขึ้น จากผลงานที่ผู้อื่นตีพิมพ์ไว้รวมกับการศึกษาการผสมกันของแก๊ส ของตนนี่เอง ที่ดอลตันได้พัฒนามาเป็นทฤษฎีอะตอมทางเคมี
ดอลตันได้นำทฤษฎีอะตอมที่เป็นเพียงปรัชญาของชาวกรีกมาปัดฝุ่นโดยมีผลการทดลองรองรับ โดยเสนอว่าสสารต่าง ประกอบขึ้นจากอะตอม และมีแรงที่ขณะนั้นยังไม่เป็นที่รู้จัก ทำหน้าที่ดึงดูดอะตอมเหล่านั้นเข้าไว้ด้วยกัน โดยเขาได้เขียน สรุปตารางน้ำหนักอะตอมของธาตุและสารประกอบง่าย ๆ ไว้ในสมุดโน้ตลงวันที่ 3 กันยายน 1803 และต่อมาก็เขียนลงใน ความเรียงว่าด้วยเมื่อน้ำดูดกลืนแก๊ส ( Essay on the absorption of Gases [by Water]) เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ปีเดียวกัน แต่พิมพ์เผยแพร่จริง ๆ ในปี 1905 น้ำหนักอะตอมของธาตุดังกล่าวนี้ เป็นน้ำหนักสัมพัทธ์ (relative weight) ซึ่งดอลตัน กำหนดให้น้ำหนักของอะตอมไฮโดรเจนเท่ากับ 1 จากนั้นก็นำสัดส่วนการทำปฏิกิริยากัน ทั้งจากที่นักเคมีอื่นตีพิมพ์ ์และที่ดอลตันทดลองเอง มาคำนวณว่าอะตอมธาตุอื่น ๆ และสารประกอบง่าย ๆ อื่น ๆ หนักเป็นกี่เท่าตัวของอะตอมไฮโดรเจน โดยทำเป็นตารางไว้รวม 21 ชนิด |