การประเมินคุณภาพอาหารด้านประสาทสัมผัสของกล้วยอบเนย จะดำเนินการให้มีการประเมินเป็นระยะ ๆ โดย ผู้ชิมจำนวน 12-16 คน การวิเคราะห์และการคำนวณทางสถิติใช้โปรแกรม MINITAB V.15 ในการคำนวณและประเมินผลแบบทดสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 การทดสอบความแตกต่างวิธี different from control test โดยให้ผู้ทดสอบชิมระบุถึงระดับความแตกต่างระหว่างตัวอย่าง2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 อาหารฉายรังสีและอาหารไม่ฉายรังสี กลุ่มที่ 2 อาหารไม่ฉายรังสีและอาหารไม่ฉายรังสี โดยใช้สเกลตั้งแต่ 5 จุดถึง 9 จุดแล้วนำคะแนนที่ได้ของทั้งสองกลุ่มมาเปรียบเทียบว่า มีอาหารฉายรังสีและอาหารไม่ฉายรังสี มีความแตกต่างกันทางสถิติหรือไม่ ผลการทดลองพบว่า ผู้ทดสอบชิมประเมินให้กล้วยอบเนยที่ฉายรังสี ไม่แตกต่างจากกล้วยอบเนยที่ไม่ได้ฉายรังสี ณ 4 และ6 เดือนหลังฉายรังสี
ส่วนที่ 2 การประเมินคุณลักษณะและความชอบ เช่น ลักษณะภายนอก กลิ่น รสชาติ ความชอบโดยรวม โดยใช้สเกลตั้งแต่ 5 จุด ถึง 9 จุด โดยระดับคะแนนที่ได้สามารถนำมาใช้เป็นมาตรฐานในการประเมินคุณภาพระหว่างการเก็บรักษาได้ ผลการทดลองพบว่า ผู้ทดสอบชิมประเมินคุณลักษณะและความชอบ ให้กล้วยอบเนยที่ฉายรังสีไม่แตกต่างจากกล้วยอบเนยที่ไม่ได้ฉายรังสี ณ 4 และ 6 เดือนหลังฉายรังสี
จากผลการทดลองนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตกล้วยอบเนยฉายรังสี และเตรียมเป็นรูปแบบการกระจายของรังสี เพื่อใช้อ้างอิงในการฉายรังสีกล้วยอบเนยให้กับผู้ประกอบการต่อไป โดยเทคโนโลยีการฉายรังสีสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพ ยืดอายุการเก็บรักษา ทำให้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและสุขภาพของประชาชน นอกจากนี้สามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เผยแพร่ทั้งในประเทศและส่งออกได้ |