การรักษาคุณภาพของเห็ดกระดุมด้วยรังสี |
สุรศักดิ์ สัจจบุตร
กลุ่มวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
|
เห็ดกระดุม หรือเห็ดแชมปิญอง (champignon) จัดเป็นเห็ดเศรษฐกิจ โดยเริ่มเพาะกันในประเทศฝรั่งเศส ต่อมาได้มีการแพร่ขยายการเพาะเห็ดชนิดนี้ออกไปทั่วโลก ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดเป็นประเทศที่มีการผลิตเห็ดชนิดนี้มากที่สุด แต่ประเทศจีนและไต้หวัน จัดเป็นประเทศที่ส่งเห็ดกระดุมสด ขายเป็นสินค้าขาออกมากที่สุด ส่วนในประเทศไทย มีการผลิตเห็ดกระดุมที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นผลสำเร็จ แต่ผลผลิตของเห็ดยังไม่ดีเท่าที่ควร ต่อมาได้มีการปรับปรุงเทคนิควิธีการเพาะ และขยายการเพาะเห็ดชนิดนี้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาพภูมิอากาศทางภาคเหนือของประเทศ เหมาะสมต่อการเพาะเห็ดชนิดนี้มาก |
|
|
ประกอบกับวัสดุที่ใช้ในการเพาะได้แก่ ฟางข้าว ไม้ไผ่ และแรงงาน ฯลฯ ของเรามีอย่างมากมายและราคาถูก จึงทำให้การเพาะเห็ดกระดุมในประเทศไทยได้เปรียบกว่าต่างประเทศมาก เป็นที่เชื่อได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้หากมีการส่งเสริมการเพาะเห็ดกระดุมอย่างจริงจังแล้ว ประเทศไทยจะเป็นแหล่งสำคัญแหล่งหนึ่งในการผลิตเห็ดกระดุม ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินตรา ในการสั่งซื้อเห็ดกระดุมจากต่างประเทศ และสามารถส่งเห็ดกระดุมเป็นสินค้าออกทำรายได้เข้าสู่ประเทศต่อไป (1) แต่ปัญหาหนึ่งที่สำคัญของการผลิตเห็ดก็คือ ไม่สามารถเก็บรักษาเห็ดไว้ได้นานเพราะเห็ดจะเกิดปฏิกิริยาการสลายตัวเอง (autolysis) จึงทำให้เห็ดเน่าเสียได้ง่าย ซึ่งสาเหตุของการเสื่อมเสียที่สำคัญของเห็ดได้แก่ |
|
|
|
เห็ดกระดุม (Agaricus bisporus) |
|
1. การเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมี (biochemical change) โดยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านชีวเคมีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญได้แก่ ปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาล (browning reaction) เนื่องจากเอนไซม์และจุลินทรีย์
เอนไซม์ที่มีส่วนทำให้เกิดสีน้ำตาลในเห็ดได้แก่ เอนไซม์พอลิฟีนอลออกซิเดส (polyphenol oxidase (PPO) ) ที่มีมากในก้านและหมวกของดอกเห็ด ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีทองแดงเป็นองค์ประกอบ (2) โดยก่อให้เกิดปฏิกิริยา 2 แบบ คือ ปฏิกิริยาไฮดรอกซีเลชัน (hydroxylation) และออกซิเดชัน (oxidation) โดยเปลี่ยนมอโนฟีนอล (monophenol) ไปเป็นเมลานิน (melanin) ซึ่งเป็นรงควัตถุสีน้ำตาลก่อให้เกิดสีคล้ำในเห็ด(3) |
|
ส่วนจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดสีน้ำตาลในเห็ดได้แก่ แบคทีเรีย ซึ่งสามารถสร้างสารประกอบพิษเมแทบอไลต์ (metabolite toxic compounds) ในสภาวะปกติได้ โดยก่อให้เกิดรอยไหม้สีน้ำตาล (browning injury) ในเห็ดได้ ส่วนรา Verticilium maltousei ทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลบนเห็ด (4) |
|
|
Pseudomonas tolaasii บนเห็ดกระดุม |
ลักษณะของPseudomonas tolaasii บนจานอาหารเลี้ยงเชื้อ |
|
2. การหายใจ (respiration) การหายใจของเห็ดจะเป็นทั้งแบบใช้ออกซิเจน (aerobic) และแบบไม่ใช้ออกซิเจน(anaerobic) การที่เห็ดมีอัตราการหายใจสูงก็จะเร่งการทำลายส่วนต่าง ๆ ของเห็ดให้เร็วยิ่งขึ้นด้วย
3. การทำลายโดยจุลินทรีย์ จุลินทรีย์สามารถทำให้เห็ดเกิดการเน่าเหม็นหรือทำให้เกิดพิษเห็ดรา (mycotoxin) ได้
ดังนั้นก็ได้มีการศึกษาวิจัยในการยืดอายุเห็ดเพื่อเก็บไว้บริโภคนาน ๆ หลายวิธี เช่น การปรับปรุงวัสดุบรรจุภัณฑ์ การปรับอุณหภูมิ การปรับบรรยากาศของการเก็บรักษาเห็ด แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่จะแนะนำในที่นี้คือ การฉายรังสีเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาเห็ด
การฉายรังสีในเห็ดกระดุมสามารถที่จะยับยั้งการเกิดสีน้ำตาลในเห็ดได้ โดยเห็ดที่ไม่มีการฉายรังสีนั้นจะคล้ำลงหลังจากเก็บไว้ 4 วัน ส่วนเห็ดที่มีการฉายรังสีแกมมา 2.5 กิโลเกรย์ สีจะเริ่มคล้ำเมื่อเก็บรักษาหลังจากวันที่ 7 ไปแล้ว (5) และได้มีการทดลองนำเห็ดที่ฉายรังสีปริมาณ 3 กิโลเกรย์ มาเก็บไว้ที่ 10๐ซ. ความชื้น 94% โดยเมื่อเก็บรักษาได้ 7 วัน จะพบว่าสีของเห็ดฉายรังสี ขาวมากกว่าเห็ดที่ไม่ฉายรังสี ในสภาวะการเก็บเดียวกัน ซึ่งมีสีคล้ำกว่าอันเนื่องมาจากปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาล (4) ดังที่กล่าวมาแล้ว ว่าการเกิดสีน้ำตาลของเห็ดนั้นเกี่ยวข้องกับเอนไซม์ PPO และจุลินทรีย์บางชนิด แสดงว่ารังสีแกมมานั้นมีผลต่อเอนไซม์และจุลินทรีย์ดังกล่าว โดยรังสีนั้นจะไปยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ ที่มีส่วนกับการเกิดสีน้ำตาลในเห็ด และลดจำนวนจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในเห็ดลง ซึ่งสามารถลดจำนวนจุลินทรีย์ประเภทใช้ออกซิเจน (aerobic) และ ไซโครทรอป (psychrotrop) ลงได้จำนวน 6 log cfu (colony forming unit) ทันทีหลังจากการฉายรังสีที่ 2 กิโลเกรย์ (3) จึงมีผลทำให้สามารถยืดระยะการเก็บรักษาเห็ดได้ยาวนานยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับเห็ดที่ไม่ฉายรังสี (5)
แต่อย่างไรก็ตาม การยืดอายุของเห็ดให้ได้ผลดีที่สุดนั้นควรใช้วิธีการต่าง ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น วิธีการเก็บเกี่ยว ชนิดของบรรจุภัณฑ์ อุณหภูมิ ความชื้น และสภาวะบรรยากาศของการบรรจุ
เอกสารอ้างอิง |
(1). |
ดำเกิง ป้องพาล. 2545. การผลิตเห็ด. ภาควิชาพืชสวน คณะผลิตกรรมการเกษตร, มหาวิทยาลัยแม่โจ้. |
(2). |
Vamos-Vigyazo, L. 1981. Polyphenol oxidase peroxidase in fruits and vegetables. CRC Food Sci Nutr. 15,48-127. |
(3). |
Long, J.T. and Alben, J.O. 1969. Preliminary studies of mushroom tyrosinase (Polyphenol oxidase). Mush. Sci. 5, 281-299. |
(4). |
Royse,D.J. and Wuest, P.J. 1980. Mushroom brown blotch. Effects of chlorinated water on disease intensity and bacterial populations in casing soil and pilei. Phytopathology. 70, 902-905. |
(5). |
Beaulieu, M.,DAprano, D. and Lacroix, M. 2002. Effect of dose rate of gamma irradiation on biochemical quality and browning of mushroom Agaricus biosporus. Radiation physics and Chemistry. 63, 311-315. |
|
|
|
|